สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินจะมาเล่าเรื่องใกล้ตัวภายในบ้านเรื่องของความปลอดภัย ที่เพิ่งมีประสบการณ์ผ่านมาสดๆร้อนๆ เลยอยากจะให้ความรู้แก่ลูกบ้านกันสักหน่อยจะได้ไม่โดนเหมือนแอดมิน
เริ่มจากที่หลอดไฟที่บ้านของแอดมิน เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์แบบยาว มันเสียไปตามกาลเวลานะคะ แอดมินก็เคยเห็นคุณพ่อเปลี่ยนเองอยู่บ่อยๆ ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไร ผู้หญิงอย่างเราก็น่าจะทำได้ ก็เลยลองเปลี่ยนเอง ทีนี้งานเข้าเลยค่ะ โดนไฟดูด ชาไปทั้งมือเลย ถึงแม้ว่ามันจะไม่อันตรายร้ายแรง แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรโดนเช่นกัน แล้วถ้ามันร้ายแรงขึ้นมาจะทำยังไง?
แอดมินก็เลยหาข้อมูล เพื่อป้องกันตัวเอง จนได้ข้อมูลว่า แอดมินเผลอเอามือไปโดนขั้วหลอดไฟนั้นเอง ถึงแม้ว่าแอดมินจะปิดสวิทซ์ไฟแล้ว ก็อาจจะเกิดการรั่วไหลของกระแสไฟได้ เนื่องจากการเสื่อมสภาพตามระยะเวลาการใช้งาน และวงจรของหลอดไฟแบบปกติทั่วไปที่การออกแบบมานั้นไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานและผู้ติดตั้ง และยิ่งไปกว่านั้นแอดมินยังเจอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับแอดมิน ได้ นั้นคือ หลอดไฟ Philips EcoFit LEDtube ที่มีการออกแบบวงจรที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและผู้ติดตั้ง และมีตัวแทนสตาร์เตอร์ที่ช่วยตัดวงจรไฟฟ้า แถมยังเป็นหลอดไฟแบบ LED อีกด้วย
Philips EcoFit LEDtube
โดยปกติทั่วไปวงจรของหลอดไฟเป็นแบบวงจรชั้วสองข้าง มีโอกาสที่ไฟจะเล็ดลอดไปอีกด้านหนึ่งของหลอดได้ ทำให้เกิดไฟดูดได้ในกรณีที่มือของเราโดนเข้ากับขั้วหลอดไฟ ส่วนวงจรของหลอดไฟ Philips EcoFit LEDtube มีการจ่ายไฟเข้าหลอดเพียงข้างเดียว ทำให้ไม่เชื่อมต่อถึงกัน เพราะได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานและผู้ติดตั้ง ไม่มีการช็อตไม่มีการดูดของไฟ ทั้งในกรณีที่มือของเราอาจจะโดนกับขั้วของหลอดไฟหรือกรณีที่เราลืมปิดสวิชต์ไฟขณะเปลี่ยนหลอด ซึ่งผ่านการทดสอบคุณภาพและความปลอดภัยระดับสากล จากห้องปฏิบัติการที่ได้การยอมรับ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยตัวแทนสตาร์ทเตอร์ที่ช่วยตัดวงจรไฟฟ้าได้ เห็นแบบนี้ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้แอดมินสำหรับการเลือกใช้หลอดไฟได้มากกขึ้นเลย
ไหนๆ ก็ดูถึงเรื่องของการออกแบบที่ปลอดภัยของ หลอดไฟ Philips EcoFit LEDtube กันแล้ว แอดมินก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลอดไฟ Philips EcoFit LEDtube ที่จะทำให้แอดมินมั่นใจและเลือกใช้ นอกจากประโยชน์ที่มีมากกว่าความปลอดภัย ซึ่งมันทำให้แอดมินมั่นใจมากขึ้นจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นแสงสว่างของหลอดไฟมีความเหมาะสมกับทุกการใช้งาน แถมยังเปิดปุ๊บ ติดปั๊บแบบไม่ต้องรอ ช่วยในการถนอมสายตา ไม่มีรังสี UV ตัวปัญหาสำหรับผิวของเรา มีอายุการใช้งานนานถึง 15,000 ชั่วโมงจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟบ่อยๆ ช่วยให้เราประหยัดไฟได้ถึง 55% เมื่อเทียบกับหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ และการติดตั้งก็ง่ายมากๆ
เรามาดูวิธีการติดตั้ง Philips EcoFit LEDtube กันบ้างดีกว่า
ผู้หญิงอย่างแอดมิน ก็สามารถเปลี่ยนจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ มาเป็นหลอดไฟ Philips EcoFit LEDtube แบบไม่ต้องเปลี่ยนรางใหม่ ไม่ต้องเดินสายไฟใหม่ แค่ใช้ตัวแทนสตาร์ทเตอร์ที่เขามีให้มาในกล่อง ไม่ต้องง้อคุณผู้ชายเลยค่ะ ตัวแทนสตาร์ทเตอร์จะช่วยทำให้ไฟติดแล้ว ยังช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยดีกว่าสตาร์ทเตอร์แบบเดิมมากๆ เลยค่ะ วิธีการติดตั้งก็มีบอกตามข้างกล่องเลยค่ะ
จากรางหลอดไฟอันเดิมที่ต้องการจะเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ (ไม่ต้องถอดบัลลาสต์ออก) ทำการปิดสวิตซ์ไฟ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยด้วยนะคะ หรือว่าถ้าคุณลืมปิดสวิตซ์ก็หมดกังวลค่ะ เพราะอย่างที่บอก หลอดไฟของ Philips ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและผู้ติดตั้ง (แต่การเปลี่ยนจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์มาใช้หลอดไฟ Philips EcoFit LEDtube ครั้งแรก! ต้องทำการปิดสวิตซ์นะคะ เพราะอย่าลืมว่าหลอดไฟแบบเดิมยังจะทำให้คุณโดนไฟดูดได้อยู่)
หลังจากปิดสวิตซ์ไฟแล้ว นำหลอดไฟเก่าออก และเปลี่ยนสตาร์ทเตอร์ตัวเดิม ด้วยตัวแทนสตาร์ทเตอร์ที่ให้มาในกล่องเลยค่ะ
หลังจากนั้นคุณก็สามารถเปลี่ยนมาเป็นหลอดไฟ Philips EcoFit LEDtube ได้เลย ง่ายๆ (เหมือนกับการเปลี่ยนหลอดไฟปกติทั่วไปเลยค่ะ)
เพียงแค่นี้คุณก็จะมีหลอดไฟ LED ไว้ใช้งาน ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าหลอดไฟแบบเดิมของคุณกันแล้ว แถมยังปลอดภัยไร้กังวลและรับรองว่าค่าไฟฟ้าที่บ้านของคุณจะลดลงจนเป็นที่น่าพอใจเหมือนแอดมิน แน่นอนค่ะ ถ้ารู้มาก่อน แอดมิน คงไม่ต้องโดนไฟดูดให้เจ็บตัว
ดูวีดีโอนี้แล้วคุณจะเข้าใจแบบเห็นภาพชัดเจนเลยค่ะ
